ฟันคนเราปกติจะมีสีขาวเป็นมันวาว แต่บางคนจะมีฟันเหลืองหรือดำคล้ำ โดยอาจจะเป็นเพียงบางซี่ หรือทุกๆ ซี่ก็ได้ สาเหตุที่ทำให้ฟันไม่ขาวมีหลายสาเหตุด้วยกัน คือ
1. การรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ การอมลูกอม สูบบุหรี่ ประกอบกับการดูแลความสะอาดฟันไม่เพียงพอ จึงทำให้มีคราบอาหาร คราบแบคทีเรีย และหินปูน สะสมทีละน้อย จนเห็นเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล หรือสีดำตามซอกฟัน
2. ฟันผุ มักจะมีสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำตาล โดยเฉพาะฟันที่อยู่ด้านหน้าทำให้มองเห็นได้ชัดเจน
3. ฟันตาย หมายถึง ฟันที่ไม่มีเลือดและประสาทฟันมาหล่อเลี้ยงทำให้ฟันมีสีทึบ ซึ่งเกิดขึ้นกับฟันที่ผุมากๆ และทิ้งไว้นานจนฟันผุลุกลามถึงโพรงประสาทฟัน หรืออาจเกิดขึ้นกับฟันที่ได้รับอุบัติเหตุหรือถูกกระแทกอย่างแรง จนมีการฉีกขาดของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงฟัน เมื่อทิ้งไว้นานๆ โดยไม่มีการดึงประสาทฟันออก ฟันจะยิ่งมีสีคล้ำมากขึ้น
4. ฟันมีสีผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด อาจเกิดจากโรคบางชนิดหรือได้รับยาบางชนิดมากเกินไป เช่น ยาเตตราไซคลีน ซึ่งการกินยาตัวนี้จะมีผลต่อสีของฟันโดยเฉพาะในช่วงที่มีการก่อตัวหรือสร้างฟัน คือ ฟันน้ำนมในเด็กอายุ 3-9 เดือน และฟันแท้ในเด็กอายุ 3-12 ปี ทำให้ฟันแทบทุกซี่มีสีค่อนข้างเหลืองหรือเป็นสีเทาดำ นอกจากนี้อาจเกิดจากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป จะมีจุดสีน้ำตาลบนฟัน ที่เรียกว่า ฟันตกกระ
การฟอกสีฟันในปัจจุบันคือการฟอกสีฟันทั้งปากซึ่งได้รับความนิยมจากบุคคลทั่วไปและยาที่ใช้ฟอกสีฟันได้มีการพัฒนาให้ใช้ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การฟอกสีฟันทั้งปาก ทำได้ 2 วิธีคือ
- วิธีแรก ฟอกสีฟันที่คลีนิค โดยทันตแพทย์จะใช้สารฟอกสี ซึ่งส่วนใหญ่ คือ สารประเภท Peroxide ที่มีความเข้มข้น 30-35% โดยใช้เวลาในการฟอกสีประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
- วิธีที่สอง ทันตแพทย์เตรียมอุปกรณ์เพื่อสามารถทำการฟอกสีฟันเองได้ที่บ้าน โดยสารฟอกสีที่ใช้จะเป็นประเภทเดียวกับที่ทำในคลีนิคแต่เพื่อความปลอดภัยความเข้มข้นของสารฟอกสีจะมีความเข้มข้นประมาณ 2-10% วิธีฟอกเพียงแค่บีบสารฟอกสีลงในถาดฟันยางที่ทันตแพทย์ทำเฉพาะไว้สำหรับแต่ละคน จำนวนน้ำยาที่ใส่ลงในถาดประมาณ 1 ใน 3 ของถาด แล้วสวมฟันยางไว้วันละ 1-2 ชม. ทุกวัน และกลับมาให้ทันตแพทย์ตรวจเป็นระยะตามกำหนดนัด
ระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับสีและคราบคล้ำของฟัน ถ้าฟันมีสีเหลืองไม่มากก็อาจจะฟอกให้ขาวได้ในเวลา 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าหากฟันมีสีเหลืองเข้มหรือสีเทาอ่อนก็อาจจะต้องใช้เวลาในการฟอกมากขึ้นเป็น 4-5 สัปดาห์
สารฟอกสีที่ทำโดยทันตแพทย์จะมีอันตรายหรือผลข้างเคียงต่อเหงือกหรือฟันบ้างเพราะว่ามีความเข้มข้นสูง ส่วนชนิดที่นำไปทำเองที่บ้านนั้นจะไม่ค่อยมีอันตราย ถึงแม้ว่าอาจจะกลืนสารฟอกสีลงไปบ้างเล็กน้อย เพราะสารฟอกสีจะสลายตัวกลายเป็นน้ำได้ง่าย
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอาจจะมีอาการแสบเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก เนื่องจากการระคายเคืองจากการสัมผัสกับน้ำยาโดยตรง และอีกอาการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอก็คือ การเสียวฟันหลังจากฟอกสี แต่อาการจะค่อยๆ ทุเลาลงและหมดไปเมื่อหยุดฟอกสี
การฟอกสีฟันเมื่อฟอกแล้วสีกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพสีก่อนฟอก ถ้าสีเดิมค่อนข้างคล้ำ โอกาสที่ฟันจะกลับเป็นสีเดิมเป็นไปได้สูงในเวลา 1-2 ปี แต่ถ้าสีฟันมีสีเหลืองอ่อน ฟันจะขาวได้นานประมาณ 3-4 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารและการดูแลความสะอาดด้วย และเมื่อสีฟันคล้ำลงก็สามารถใช้ยาฟอกสีฟันทำซ้ำได้อีก
สามารถทำได้แต่ไม่มีความจำเป็นต้องทำ ปกติเด็กจะมีฟันแท้ขึ้นตอนอายุประมาณ 6-7 ปี ฟันแท้ที่ขึ้นมามักจะมีสีเหลืองกว่าฟันน้ำนมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือว่าเป็นสีธรรมชาติจึงไม่จำเป็นต้องฟอกสีฟัน นอกจากรายที่มีความปกติจริงๆ เท่านั้น
- การทำเคลือบฟัน โดยทันตแพทย์จะกรอแต่งผิวเคลือบฟันด้านหน้าออกเล็กน้อย แล้วปิดทับด้วยวัสดุอุดสีขาวหรือสีเหมือนฟัน วิธีนี้จะทำให้ฟันขาวค่อนข้างถาวรกว่าการฟอกสี แต่ก็ยังมีโอกาสเสื่อมได้ คือ อาจจะมีรอยแตกหรือกะเทาะของวัสดุที่เคลือบเมื่อใช้ไม่ระมัดระวัง แต่ก็สามารถซ่อมแซมหรือทำใหม่ได้ไม่ยากนัก ส่วนค่าใช้จ่ายในการเคลือบฟันนั้นจะแพงกว่าการฟอกสีฟัน
- การทำครอบฟัน ทันตแพทย์จะกรอแต่งผิวเคลือบฟันออกทั้งซี่ ให้เหลือเป็นแกนแล้วทำฟันปลอมครอบทับลงไปโดยยึดด้วยซีเมนต์ทันตกรรม ฟันที่ดำหรือแตก บิ่น เหมาะที่จะทำการครอบฟัน แต่ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าการทำเคลือบฟันและการฟอกสีฟัน
7 ข้อแนะนำเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งระยะไกล เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน
พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน
นักธรรมชาติวิทยาคนแรกของโลก
นายแพทย์ชาวอังกฤษผู้ใช้เวลากว่า 10 ปีในการศึกษาระบบการไหลเวียนโลหิตในร่างกายว่าทำงานอย่างไร
เนื่องจากภาวะคลอดก่อนกำหนดจะทำให้ร่างกายของเด็กที่คลอดออกมายังไม่พร้อมต่อการเผชิญสภาพแวดล้อมภายนอก จึงต้องมีการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ
เมื่อถูกงูกัด ควรตั้งสติให้ดีและปฐมพยาบาลให้ถูกต้อง เพื่อให้พิษส่งผลกระทบกับผูถูกกัดน้อยที่สุด และสามารถนำส่งแพทย์ได้ทัน
ภาวะสมองเสื่อมนั้นถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ภาวะปกติของผู้สูงอายุ สาเหตุเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิตในแต่ละวันของคนเราว่าจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้หรือไม่ จึงควรรู้ถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะสมองเสื่อม