"Imagination is More Important Than Knowledge. Knowledge Is Limited. Imagination Encircles The World - จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะความรู้นั้นมีจำกัด แต่จินตนาการมีอยู่ทุกพื้นที่บนโลก"
Albert Einstein(อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)

การดูแลสุขภาพ หู และวิธีการหยอดหู

วิธีการดูแลสุขภาพหู

1. การทำความสะอาดหู ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาดเช็ดบริเวณใบหู และรูหูเท่าที่นิ้วจะเช็ดเข้าไปได้เท่านั้น

2. ขี้หู เป็นสิ่งที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติ อาจจะแห้งหรือเปียก ขี้หูหากมีจำนวนมากจะร่วงหรือไหลออกมาเองจึงไม่จำเป็นต้องปั่นหรือแคะหู สำหรับคนที่มีขี้หูมากจับเป็นก้อนอุดตันหู ทำให้ได้ยินเสียงไม่ชัด ในกรณีนี้จะรู้สึกว่าหูอื้อ ไม่ควรแคะหูด้วยที่แคะหู กิ๊บเสียบผมหรือไม้จิ้มฟันเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเยื่อแก้วหู ผนังรูหูอาจเป็นแผลและอักเสบ ซึ่งจะนำเชื้อโรคเข้าสู่ช่องหูโดยไม่รู้ตัว ควรใช้น้ำมันกลีเซอรีนหรือน้ำมันมะกอกหยอดหูวันละ 2 ครั้ง จะทำให้ขี้หูนิ่มและละลายหลุดออกมาเอง ถ้าไม่หายหรือมีอาการปวดหูหรือการได้ยินยังไม่ชัด ควรปรึกษาแพทย์

3. เมื่อเป็นหวัด เจ็บคอ ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรงๆ หรืออุดจมูกข้างใดข้างหนึ่งในขณะสั่งน้ำมูก เพราะจะทำให้เชื้อโรคในคอและจมูกถูกดันเข้าสู่หูชั้นกลาง ทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นโรคหูน้ำหนวกได้

4. ผู้ที่มีอาการของโรคหวัดภูมิแพ้ มักมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบจากการติดเชื้อแทรกซ้อน จึงควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการของโรค ที่สำคัญหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการออกกำลังกายอยู่เสมอ

5. ระวังอย่าให้หูได้รับการกระทบกระแทกแรงๆ เช่น การตบหูด้วยมือทั้ง 2 ข้าง เพราะจะทำให้เยื่อแก้วหูฉีกขาดหรือกระดูกหูหลุด จนเป็นเหตุให้การได้ยินลดลง

6. หลีกเลี่ยงการตะโกนหรือทำเสียงดังใส่กัน รวมทั้งเลี่ยงแหล่งที่มีเสียงดังอึกทึก เช่น เสียงดนตรีดังๆ ในสถานบันเทิง เสียงเครื่องจักรในโรงงาน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรใส่เครื่องป้องกันเสียงหรือที่ครอบหู และถ้าหากต้องทำงานในที่เสียงดังมากๆ ควรได้รับการตรวจการได้ยินทุกๆ 6 เดือน

7. ถ้ามีแมลงเข้าหู ห้ามแคะออกเพราะจะทำให้แมลงเข้าไปในหูลึกยิ่งขึ้น ควรใช้น้ำสะอาดหรือน้ำมันที่ปลอดภัยเช่น น้ำมันมะกอก หยอดลงในรูหู ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้แมลงตาย แล้วเอียงหูให้น้ำมันไหลออกมาพร้อมแมลงแล้วใช้สำลีเช็ดให้สะอาด หรือหากเป็นเวลากลางคืนอาจใช้วิธีปิดไฟในห้องให้มืดแล้วใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในรูหู แสงไฟจะล่อแมลงให้เดินออกมา

8. เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นในหู เช่น หูอื้อ ปวดหู คันหู มีน้ำหนองหรือเลือดไหลออกมาจากหู การฟังเสียงลดลง ควรรับการตรวจจากแพทย์ หู คอ จมูก และหากแพทย์ตรวจพบว่ามีแก้วหูทะลุหรืออักเสบ ต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าหูขณะอาบน้ำหรือสระผม ให้ใช้สำลีอุดหูหรือใช้หมวกพลาสติกคลุมผมปิดถึงใบหู

ยาหยอดหู ตัวช่วยเมื่อหูมีปัญหา

ก่อนหยอดยาให้ทำความสะอาดช่องหูส่วนนอกและปรับอุณหภูมิของขวดยาให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกายเพราะการหยอดยาที่เย็นเกินไปจะทำให้เกิดอาการมึนศีรษะได้ ถ้าเก็บยาไว้ในตู้เย็นควรประคบด้วยมือสักครู่ก่อนใช้

วิธีการหยอดหู

1. ให้ผู้ป่วยนอนตะแคงหันหูด้านที่จะทำการรักษาขึ้น ยกศีรษะขึ้นให้อยู่ในแนวระนาบกับพื้นเพื่อให้ช่องหูอยู่ในแนวดิ่ง

2. ระวังอย่าให้ปากขวดยาสัมผัสกับหูผู้ป่วย ให้หยอดยาตามคำแนะนำของแพทย์ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ในกรณีที่หูชั้นนอกอักเสบ ให้ขยับใบหู ดึงใบหูขึ้นแล้วดึงไปด้านหลัง ซึ่งตำแหน่งช่องหูจะอยู่ในแนวดิ่ง โดยทำซ้ำหลายๆครั้ง จะช่วยไล่ฟองอากาศที่เกิดขึ้นและทำให้น้ำยาไหลเข้าช่องหูได้ดีขึ้น

3. ให้ผู้ป่วยลุกขึ้น ใช้กระดาษชำระที่สะอาดเช็ดบริเวณรอบๆ หู

ข้อควรระวัง...เมื่อแพทย์สั่งยาหยอดหูให้ไปหยอดที่บ้าน

1. ในการพบแพทย์แต่ละครั้ง แพทย์อาจสั่งยาหยอดหูชนิดใหม่ให้ ควรปรึกษาแพทย์ถึงการงดหรือหยุดใช้ยาตัวเดิมด้วย

2. เมื่อได้รับยาหยอดหูควรตรวจสอบดูว่า ยาหยอดขวดนั้นเป็นชื่อของท่านและเป็นยาสำหรับหยอดหูหรือไม่ แพทย์มีคำสั่งให้หยอดข้างไหน วันละกี่ครั้ง เวลาใดบ้าง และให้หยอดเป็นระยะเวลาเท่าไหร่(การหยอดยาบางชนิดเป็นเวลานานเกินไป อาจเป็นผลเสียได้)

3. ทุกครั้งที่มาพบแพทย์ ควรนำยาหยอดเดิมมาด้วย เพื่อดูจำนวนยาหยอดที่ยังเหลืออยู่

4. หากหยอดยาแล้วมีอาการแสบร้อน เวียนศีรษะ คันหูมากขึ้น สูญเสียการได้ยินหรือการทรงตัว หรือมีเสียงดังในหู ให้งดการหยอดยา และรีบปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล

5. หากรู้สึกมีความผิดปกติเกิดขึ้นในหู ไม่ควรซื้อยาหยอดหูเอง ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์

 

ความรู้อื่นๆ ที่น่าสนใจ

7 ข้อแนะนำสำหรับขาแรงก่อนลงแข่งขันวิ่งระยะไกล

7 ข้อแนะนำเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งระยะไกล เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน

อริสโตเติล

นักธรรมชาติวิทยาคนแรกของโลก

วิลเลี่ยม ฮาร์วี่

นายแพทย์ชาวอังกฤษผู้ใช้เวลากว่า 10 ปีในการศึกษาระบบการไหลเวียนโลหิตในร่างกายว่าทำงานอย่างไร

ภาวะ "คลอดก่อนกำหนด"

เนื่องจากภาวะคลอดก่อนกำหนดจะทำให้ร่างกายของเด็กที่คลอดออกมายังไม่พร้อมต่อการเผชิญสภาพแวดล้อมภายนอก จึงต้องมีการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกงูกัด

เมื่อถูกงูกัด ควรตั้งสติให้ดีและปฐมพยาบาลให้ถูกต้อง เพื่อให้พิษส่งผลกระทบกับผูถูกกัดน้อยที่สุด และสามารถนำส่งแพทย์ได้ทัน

ทำอย่างไร...ห่างไกลสมองเสื่อม

ภาวะสมองเสื่อมนั้นถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ภาวะปกติของผู้สูงอายุ สาเหตุเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิตในแต่ละวันของคนเราว่าจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้หรือไม่ จึงควรรู้ถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะสมองเสื่อม