ออกกำลังกายอย่างไร ดีต่อผู้สูงอายุ

สิ่งหนึ่งที่มักมากับวัยที่สูงขึ้น คือ ปัญหาด้านสุขภาพ เพราะขาดการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ซึ่งจริงๆแล้วผู้สูงอายุก็สามารถออกกำลังกายได้ เพียงแต่ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพร่างกาย โดยทั่วไปการออกกำลังกายในวัยนี้แบ่งกว้างๆ เป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. การออกกำลังกายหรือการบริหารเฉพาะส่วน มักใช้ร่วมกับการรักษาโรค เช่น การบริหารข้อไหล่ในผู้ป่วยโรคไหล่ติด การบริหารกล้ามเนื้อหลังในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง และการบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าในผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อม เป็นต้น

2. การออกกำลังกายโดยทั่วไป เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพหรือนันทนาการ ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต รวมถึงเพื่อเป็นการผ่อนคลายด้วย

กีฬาที่เหมาะสม

ควรเลือกกีฬาที่ไม่ใช้แรงมาก หรือไม่มีการกลั้นหายใจ การเหวี่ยง หรือกระแทกแรงๆ เช่น การยกเวทที่มีน้ำหนักมาก การวิ่งเต็มที่ การชกมวย เป็นต้น อีกทั้งควรเลือกกีฬาที่เล่นเพื่อความสนุกจะเหมาะกว่ากีฬาที่เล่นเพื่อการแข่งขัน แต่ถ้าจำเป็นต้องแข่งขัน ควรเลือกคู่แข่งในในวัยเดียวกันและสมรรถภาพใกล้เคียงกัน รวมถึงกีฬาที่ตัวผู้เล่นสามารถควบคุมจังหวะการเล่นได้เอง เช่น สามารถลดความหนักหรือหยุดพักได้ตามความต้องการ ซึ่งก็มีกีฬาหลายอย่างที่น่าเล่น เช่น

• เดินเร็ว เป็นกีฬาและการออกกำลังกายที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดความดันโลหิต และเพิ่มการเผาผลาญพลังงานที่เป็นส่วนเกินของร่างกาย แต่ต้องหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นเนินสูงหรือขั้นบันได เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
• โยคะ รำมวยจีน ไท้เก๊ก เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายทุกส่วนอย่างช้าๆ เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยในการทรงตัว ทำให้ข้อต่อและกล้ามเนื้อแข็งแรง และยังผสมผสานการฝึกหายใจเพื่อให้ออกซิเจนได้เข้าสู่ร่างกายดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกสมาธิ ช่วยให้ผู้สูงอายุมีจิตใจปลอดโปร่ง เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีปัญหาเรื่องข้อเท้า
• เต้นลีลาศ ถือเป็นกีฬาและสันทนาการที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากช่วยให้ออกกำลังกายได้ทุกส่วนแล้ว จังหวะการเคลื่อนไหวยังช่วยในเรื่องของความจำ สมาธิ และการทรงตัว และสิ่งสำคัญที่สุดคือเพลงที่ใช้เต้นก็เป็นเหมือนดนตรีบำบัด ช่วยบำบัดฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและจิตใจในเวลาเดียวกัน อีกทั้งการเต้นลีลาศยังช่วยให้ห่างไกลจากภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นโรคที่มักพบบ่อยในผู้สูงอายุ

หากแต่ในระหว่างการออกกำลังกายจะต้องคอยระวังและสังเกตตัวเองว่าควรหยุดเมื่อไร มีอาการเวียนศีรษะ ตามัว รู้สึกคล้ายหายใจไม่ทัน หรือหายใจไม่ออก ใจสั่น แน่น เจ็บตื้อบริเวณหน้าอก รวมถึงเมื่อมีอาการลมออกหู หรือหูตึงกว่าปกติหรือไม่ หากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดเล่นทันทีแล้วพักผ่อนให้เต็มที่ ถ้าอาการเป็นอยู่นาน ควรปรึกษาแพทย์ แต่ถ้าอาการหายไปเองในระยะเวลาอันสั้น ก็ไม่ควรเล่นต่อในวันนั้น ให้พักจนกว่าอาการนั้นจะหายไป