"The beautiful Thing About Learning Is Nobody Can Take It Away From You - สิ่งที่วิเศษสุดสำหรับการเรียนรู้ คือไม่มีใครสามารถเอามันไปจากคุณได้"
B.B. King(บี.บี. คิง)

เลโอนาร์โด ดา วินชี(Leonardo da Vinci)

เลโอนาร์โด ดา วินชี(Leonardo da Vinci)เลโอนาร์โด ดา วินชี(Leonardo da Vinci)

เลโอนาร์โด ดา วินชี(Leonardo da Vinci)เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1452 ที่แคว้นทัสคานี เมืองวินชี ประเทศอิตาลี บิดาเป็นนักกฎหมายชื่อว่าเปียโร เลโอนาร์โด(Piero Leonardo) ในปี ค.ศ. 1466 ครอบครัวของเขาต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์(Florence) เลโอนาร์โดมีความสนใจการวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก เขามักวาดภาพเหมือนของสัตว์ต่างๆ ที่เก็บสะสมไว้ เช่น จิ้งจก ตุ๊กแก งู หนอน ค้างคาว มอด และตั๊กแตน เป็นต้น เมื่อเลโอนาร์โดอายุได้ 18 ปี บิดาส่งเขาไปทำงานในห้องปฏิบัติงานศิลปะของศิลปินผู้มีชื่อเสียง อันเดรีย เวอร์รอกคิโอ ซึ่งทำให้เลโอนาร์โดมีความชำนาญในเรื่องการวาดรูปและการหล่อสำริดเพิ่มขึ้นอีกด้วย เลโอนาร์โดฝึกฝนศิลปะอยู่ที่นี่เป็นเวลา 6 ปี และในปี ค.ศ. 1472 เขาได้เข้าเป็นสมาชิกของสโมสรช่างแห่งเซนต์ลุก ซึ่งเป็นสมาคมของพวกจิตรกร

ด้วยความสามารถทางด้านศิลปะของเลโอนาร์โด ทำให้เขาวาดภาพเหมือนของโครงสร้างต่างๆ ของมนุษย์ สัตว์ และพืชได้เหมือนจริง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการศึกษามาก เลโอนาร์โดศึกษาโครงสร้างของมนุษย์จากศพมากกว่า 30 ศพ เขาผ่าศพเหล่านี้เพื่อศึกษาระบบการทำงานของร่างกาย กล้ามเนื้อ รวมถึงการไหลเวียนของโลหิตด้วย จากการศึกษาอย่างละเอียดทำให้เขาสามารถอธิบายถึงวิธีการทำงานของกล้ามเนื้อและโครงสร้างต่างๆ ของมนุษย์อย่างละเอียด อีกทั้งเขาได้วาดภาพส่วนต่างๆ ของร่างกายไว้อย่างละเอียด งานของเลโอนาร์โดชิ้นนี้ถือได้ว่าเป็นรากฐานของวิชากายวิภาคศาสตร์ และสรีรวิทยาเลยก็ว่าได้ ในส่วนของพืช เขาได้ทำการทดลองปลูกพืชน้ำและพบว่าวงแหวนที่เป็นชั้นๆ ในลำต้นพืชเป็นตัวบ่งบอกถึงอายุของพืช หรือที่เรียกว่า วงปี

ในปี ค.ศ. 1482 ด้วยความช่วยเหลือของลอเรนโซ เดอ เมดิชิ(Lorenzo de' Medici) เลโอนาร์โดได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงลูโดวิโก อิล โมโร(Ludovico il Moro) ดยุคแห่งมิลาน(Duke of Milan) ภายในจดหมายมีรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถและอาวุธสงครามที่เขาออกแบบขึ้น ได้แก่

อาวุธที่เลโอนาร์โดออกแบบนั้นถือว่าเป็นอาวุธที่มีความทันสมัยมาก อีกทั้งเป็นต้นแบบของอาวุธในปัจจุบันด้วย เช่น เฮลิคอปเตอร์และรถถัง เป็นต้น แม้ว่าอาวุธบางชิ้นที่ออกแบบจะไม่ได้สร้างขึ้นในสมัยนั้น นอกจากนี้ในเนื้อหาจดหมายยังมีแผนการในการทำสงครามอีกด้วย

เมื่อดยุคแห่งมิลานได้อ่านจดหมายฉบับนี้จึงเชิญเลโอนาร์โดมายังเมืองมิลานแต่มิใช่ในฐานะของจิตรกรหรือนักวิทยาศาสตร์ แต่เชิญมาในฐานะที่เลโอนาร์โดเป็นนักดนตรีและผู้จัดงานนันทนาการ เพราะเขาเป็นผู้ริเริ่มการแสดงละครสวมหน้ากากและละครโรง เลโอนาร์โดต้องการให้ท่านดยุคยอมรับเขาในฐานะอื่นมากกว่า เขาใช้ความพยายามและความสามารถที่มีอยู่เสนอผลงานต่างๆ อยู่เสมอ ต่อมาเมืองมิลานเกิดโรคระบาดและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 1 ใน 3 เลโอนาร์โดเสนอให้ท่านดยุคปรับปรุงระบบผังเมืองใหม่เพื่อป้องกันโรคระบาดแพร่กระจาย โดยการกระจายบ้านเรือนของประชาชนออกไปและขุดคลองเชื่อมต่อกันเพื่อประโยชน์ในการสุขาภิบาลอีกทั้งยังออกแบบถนน 2 ชั้น ซึ่งท่านดยุคเห็นชอบในข้อเสนอนี้และสั่งให้เลโอนาร์โดเป็นผู้รับผิดชอบในการออกแบบผังเมืองใหม่นี้

ต่อมาท่านดยุคมีโครงการจะสร้างอนุสาวรีย์ของบรรพบุรุษคือ ดยุคฟรานเชสโก สฟอร์ซา(Francesco Sforza) ในลักษณะขี่ม้าขนาดสูงถึง 29 ฟุต และใช้ทองสำริดหนักถึง 90 ตัน ท่านดยุคมอบงานนี้ให้เลโอนาร์โดเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เนื่องจากในปี ค.ศ. 1499 อิตาลีกำลังทำสงครามกับฝรั่งเศสและทองสำริดที่จะใช้ในการหล่ออนุสาวรีย์ต้องนำไปใช้หล่อปืนใหญ่แทน ดังนั้นเลโอนาร์โดจึงนำรูปปั้นดินเหนียวของท่านดยุคฟรานเชสโกไปประดิษฐานไว้บริเวณหน้าประตูพระราชวังแทน แต่เมื่อทหารฝรั่งเศสยกกองทัพเข้ามาภายในเมืองมิลานได้ทำลายอนุสาวรีย์นี้จนหมด

ภาพวาดอาหารมื้อสุดท้าย(The Last Supper)โดยเลโอนาร์โด ดา วินชีอาหารมื้อสุดท้าย(The Last Supper)

หลังจากเมืองมิลานถูกฝรั่งเศสยึดครองไว้ เลโอนาร์โดได้เดินทางหลบหนีไปอยู่ที่เมืองเวนิส(Venice) และเข้าทำงานในโครงการป้องกันภัยทางทะเลให้กับชาวเมืองเวนิส ซึ่งในขณะนั้นกำลังถูกโจมตีจากพวกเติร์กหรือชาวตุรกี และในการทำงานครั้งนี้เขาได้ออกแบบชุดมนุษย์กบโดยมีเครื่องครอบศีรษะและรองเท้าที่ช่วยในการว่ายน้ำให้เร็วขึ้น หรือที่เรียกว่า ตีนกบ ซึ่งใช้กันมาจนทุกวันนี้

นอกจากนี้เขายังทำการค้นคว้าและทดลองเกี่ยวกับการบินโดยสร้างปีกขนาดใหญ่เลียนแบบปีกของนก โครงของปีกทำด้วยไม้และบุด้วยผ้าบางๆ และขนสัตว์ เขาให้ลูกศิษย์ชื่อ โซโรอาสเต เดอ เปเรโตโล เป็นผู้ทดลองบินแต่ไม่ประสบความสำเร็จและทำให้เปเรโตโลขาหัก

ภาพวาดโมนา ลิซ่าโดยเลโอนาร์โด ดา วินชีภาพวาดโมนา ลิซ่า

เลโอนาร์โดอยู่ที่เมืองเวนิสได้ไม่นานก็เดินทางไปเมืองฟลอเรนซ์ ในระหว่างนี้เขาได้รับความลำบากในเรื่องเงินทองอย่างมาก เขาต้องรับจ้างวาดภาพเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ แต่เขาได้สร้างผลงานทางด้านศิลปะอันทรงคุณค่าขึ้นมา 2 ชิ้น ได้แก่ ภาพอาหารมื้อสุดท้าย(The Last Supper) ในระหว่างปี ค.ศ. 1495 - 1497 บนฝาผนังยาว 30 ฟุต สูง 14 ฟุตของโบสถ์ซานตา มาเรีย เดลลา เกรซี(Santa Maria delle Grazie) ด้วยสีฝุ่นผสมน้ำมัน เป็นภาพเกี่ยวกับพระเยซูพร้อมกับสาวก 12 คนขณะรับประทานอาหารมื้อสุดท้าย ต่อมากษัตริย์ฝรั่งเศสได้ทรงทอดพระเนตรภาพนี้และรู้สึกประทับใจมากจึงมีคำสั่งให้นำภาพนี้กลับฝรั่งเศสด้วย ปัจจุบันภาพนี้แสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์(The Louvre) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อีกภาพหนึ่งชื่อว่า โมนา ลิซ่า(Mona Lisa) หรือลาโจกอนดา(La Gioconda) ซึ่งเป็นชื่อของหญิงสาวที่เป็นแบบในการวาดรูป ภาพนี้เป็นภาพเขียนสีน้ำมันของผู้หญิงที่มีรอยยิ้มน่าประทับใจ วาดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1500

นอกจากงานด้านศิลปะ เลโอนาร์โดยังได้ประดิษฐ์เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ขึ้น เช่น ไฮโกรมิเตอร์(Hygrometer) สำหรับใช้วัดความชื้นในอากาศ และตาชั่ง อีกทั้งยังเป็นผู้ค้นพบพลังงานไอน้ำ โดยทดลองนำน้ำใส่ลงในภาชนะที่ปิดสนิทแล้วนำไปต้ม ผลปรากฏว่าภาชนะนั้นระเบิดออกมาด้วยแรงดันของไอน้ำ

ในปี ค.ศ. 1506 เลโอนาร์โดได้รับเชิญจากพระราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 12(King Louis XII) แห่งฝรั่งเศสให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรและจิตรกรประจำราชสำนัก และในช่วงบั้นปลายชีวิต เลโอนาร์โดพำนักในคฤหาสน์แห่งหนึ่งในเมืองอัมบัวส์ของกษัตริย์ฝรั่งเศสองค์ใหม่ พระเจ้าฟรังซัวส์ที่ 1(King France I) ในปี ค.ศ. 1518 เขาป่วยด้วยโรคอัมพาตที่แขนขวาและเสียชีวิตในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1519 ที่เมืองอัมบัวส์ ประเทศฝรั่งเศส

 

ความรู้อื่นๆ ที่น่าสนใจ

7 ข้อแนะนำสำหรับขาแรงก่อนลงแข่งขันวิ่งระยะไกล

7 ข้อแนะนำเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งระยะไกล เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน

อริสโตเติล

นักธรรมชาติวิทยาคนแรกของโลก

วิลเลี่ยม ฮาร์วี่

นายแพทย์ชาวอังกฤษผู้ใช้เวลากว่า 10 ปีในการศึกษาระบบการไหลเวียนโลหิตในร่างกายว่าทำงานอย่างไร

ภาวะ "คลอดก่อนกำหนด"

เนื่องจากภาวะคลอดก่อนกำหนดจะทำให้ร่างกายของเด็กที่คลอดออกมายังไม่พร้อมต่อการเผชิญสภาพแวดล้อมภายนอก จึงต้องมีการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกงูกัด

เมื่อถูกงูกัด ควรตั้งสติให้ดีและปฐมพยาบาลให้ถูกต้อง เพื่อให้พิษส่งผลกระทบกับผูถูกกัดน้อยที่สุด และสามารถนำส่งแพทย์ได้ทัน

ทำอย่างไร...ห่างไกลสมองเสื่อม

ภาวะสมองเสื่อมนั้นถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ภาวะปกติของผู้สูงอายุ สาเหตุเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิตในแต่ละวันของคนเราว่าจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้หรือไม่ จึงควรรู้ถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะสมองเสื่อม